ดูแลอุปกรณ์ผ่าตัดสแตนเลสได้..ไม่ยากอย่างที่คิด
สแตนเลส (stainless) เป็นชื่อเรียกของโลหะผสมที่มีคุณสมบัติที่ยากต่อการถูกกัดกร่อน และยากต่อการเกิดสนิม โดยชนิดของสแตนเลสนั้นมีมากมาย ขึ้นอยู่กับปริมาณที่แตกต่างกันของของสารที่ผสม โดยเฉพาะโครเมียม(อย่างน้อย10%)และนิกเกิ้ลที่ผสมลงไปกับเหล็ก เพื่อให้ได้คุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าอุปกรณ์สแตนเลสจะไม่มีวันเป็นสนิม หากเราไม่ดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ก็มีโอกาสที่อุปกรณ์จะเกิดความเสียหายได้
การป้องกันการเกิดสนิมของสแตนเลส เกิดจากการที่ส่วนของโครเมียมทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศเกิดเป็นชั้นโครเมียมออกไซด์ (passive layer) มาเคลือบบริเวณผิวอุปกรณ์
คราบที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์สแตนเลส
1. คราบจากสารอินทรีย์ เช่น คราบเลือด โปรตีน ฯลฯ
สาเหตุ
- ไม่ได้ทำความสะอาดอุปกรณ์ทันที หรือทำความสะอาดไม่ดีพอแล้วนำไปฆ่าเชื้อที่อุณหภูมิสูง ทำให้คราบแห้งกรังติดแน่น
การแก้ไข
- ขัดเฉพาะจุดด้วยมือ หรือล้างใหม่ด้วยเครื่อง Ultrasonic
- ใช้ 3%ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (นาน 5 นาที)
2. คราบการผุกร่อน (pitting corrosion)
สาเหตุ
- มักเกิดกับเครื่องมือสัมผัสกับธาตุในกลุ่มอโลหะ เช่น ฟลูออรีน , คลอรีน , โบรมีน , ไอโอดีน
- แช่เครื่องมือในนํ้าที่มีคลอรีน หรือน้ำยาที่มีไอโอดีน
การแก้ไข
- ใช้น้ำที่ปราศจากคลอรีนในการล้างเครื่องมือ หรือหากเครื่องมือจำเป็นต้องสัมผัสกับสารที่มีธาตุดังกล่าว หลังใช้งานควรรีบทำความสะอาดทันที
- เลือกซื้อสแตนเลสที่ทนการกัดกร่อนของคลอรีน
3. คราบน้ำ (water spots)
สาเหตุ
- เกิดจากการนำนํ้ากระด้างหรือน้ำที่มีแร่ธาตุสูงมาล้างเครื่องมือ
การแก้ไข
- ถ้าเป็นไปได้ ใช้น้ำที่ไม่มีแร่ธาตุมาล้างเครื่องมือ
- หลีกเลี่ยงการมีน้ำเกาะบนเครื่องมือ อาจวางผึ่งในแนวตั้ง หรือรีบเช็ดให้แห้ง
4. คราบสีรุ้ง (contact corrosion)
สาเหตุ
- เกิดจากการที่อุปกรณ์ไปสัมผัสกับวัสดุที่ไม่ใช่สแตนเลส หรือมีตกค้างของน้ำยาทำความสะอาด
การแก้ไข
- ใช้ความเข้มข้นของน้ำยาที่พอดีและล้างน้ำยาออกให้หมด
- ใช้ ภาชนะสแตนเลสในการบรรจุเครื่องมือ
5. คราบบริเวณข้อต่อ (Fretting and crevice corrosion)
สาเหตุ
- มีความชื้นหรือคราบสกปรกตกค้างบริเวณรอยต่อ ทำใหออกซิเจนเข้าไม่ถึง ทำลายแผ่นฟิลม์ที่โครเมียมออกไซด์
การแก้ไข
- ล้างบริเวณรอยต่อให้สะอาด และเช็ดให้แห้งสนิท
- ใช้ น้ำยาหล่อลื่นสำหรับเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ (หรือพาราฟินเหลวทางการแพทย์) หยอดพ่นบริเวณจุดหมุนหลังล้างทำความสะอาดแล้ว
6. รอยหักร้าว (Stress corrosion crack)
สาเหตุ
- เกิดเจากการแช่เครื่องมือในน้ำยาที่มีความเข้มข้นสูงนานๆ
- การนึ่งเครื่องมือที่ Clamp ไว้
- มีความชื้นในซอกเครื่องมือ เกิดการสึกกร่อนภายใน
การแก้ไข
- อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องปลดล้อคก่อนนำเข้าออโตเคลป
- เครื่องมือต้องแห้งก่อนนำไปจัดเก็บ
ข้อควรระวังในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อเครื่องมือด้วยเครื่องออโตเคลป
1. Cleaning
- หมายถึง การขจัดอินทรียสาร สิ่งสกปรก ฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ออกจากอุปกรณ์
- การล้างอุปกรณ์ควรทำในบริเวณที่จัดไว้สำหรับล้างอุปกรณ์โดยเฉพาะ และผู้ปฏิบัติจะต้องสวมเครื่องป้องกัน ได้แก่ ถุงมือยางอย่างหนา ผ้าปิดปากและจมูก เป็นต้น และควรใช้ความระมัดระวังในการล้างเครื่องมือที่มีคม
- แนะนำให้ทำความสะอาดเครื่องมือทันทีหลังจากใช้เสร็จ เพื่อป้องกันการติดแน่นของคราบเลือดและคราบสกปรก
- อย่าลืมปลดล้อคอุปกรณ์ เช่น artery forceps ในระหว่างการล้าง
- ไม่ควรใช้ แปรงโลหะ ฝอยขัดที่เป็นโลหะ ในการนำมาขัดล้างเครื่องมือ
- ควรใช้น้ำยาสำหรับล้างเครื่องมือแพทย์โดยเฉพาะ โดยไม่ควรใช้น้ำยาล้างจานหรือน้ำยาซักผ้าในการล้างอุปกรณ์ เนื่องจากสารเคมีและ pH ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนเครื่องมือได้
2. Rinsing
- การใช้น้ำสะอาดไหลผ่านอุปกรณ์หลังจากทำความสะอาดด้วยน้ำยาแล้ว
- ล้างน้ำให้ทั่วถึงภายหลังการล้างทำความสะอาด ถ้าเป็นไปได้ ควรใช้น้ำที่ปราศจากการเจือปนของแร่ธาตุ หรือล้างน้ำสุดท้ายด้วยน้ำกลั่น เพราะการใช้น้ำประปาจะมีคลอรีนซึ่งอาจทำให้เกิดการสึกกร่อนหรือเกิดคราบบนเครื่องมือได้
3. Drying
- ควรใช้ผ้านุ่มๆซับน้ำออกจากอุปกรณ์ทันทีหลังจากล้างเสร็จ และต้องมั่นใจว่าเครื่องมือแห้งสนิทจริงๆก่อนนำไปทำการฆ่าเชื้อ
4. Sterilization
- การจัดวางห่ออุปกรณ์จะต้องไม่ให้ห่ออุปกรณ์สัมผัสกับผนังด้านใน พื้น หรือเพดานของช่องอบ วางหลวมๆ ไม่ติดกัน เพื่อให้ไอน้ำไหลเวียนและผ่านเข้าไปในห่ออุปกรณ์ได้สะดวก
- อุปกรณ์ทุกชิ้นต้องปลดล้อคก่อนนำเข้าออโตเคลป เพื่อป้องกันการเกิดรอยแตกร้าวตรงบริเวณข้อต่อ
5. Drying/Storage
- เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนกาทำให้ปราศจากเชื้อ ควรนำห่ออุปกรณ์ไปไว้ในบริเวณที่ไม่มีคนพลุกพล่าน
- ไม่ควรนำรถอุปกรณ์ไว้ในบริเวณที่มีลมพัดผ่านหรือไว้ใกล้พัดลม
- ไม่ควรจับต้องห่ออุปกรณ์ในขณะที่ห่ออุปกรณ์ยังร้อนจะสามารถดูดซึมความชื้นได้เร็ว และเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่บนมืออาจจะเข้าไปในห่ออุปกรณ์ได้
- เมื่ออุปกรณ์เย็นลงแล้ว ควรตรวจสอบห่ออุปกรณ์ดูว่ามีการฉีกขาดหลุดลุ่ยเปียกชื้นหรือไม่ เมื่อจะนำห่ออุปกรณ์บรรจุลงใน ควรตรวจดูว่าออโตเคลปเทปที่ติดบนห่ออุปกรณ์เปลี่ยนสีสม่ำเสมอหรือไม่ หากเทปไม่เปลี่ยนสี หรือเปลี่ยนสีไม่สม่ำเสมอ แสดงว่ามีปัญหาเกิดขึ้น
บทความโดย
สพ.ญ สุรดา วัชรพงศ์ปรีชา
เอกสารอ้างอิง
http://www.ydm.co.jp/en-new/pdf/The_process_of_cleaning_and_sterilizing.pdf
http://vet.shoof.co.nz/docs/instrumets_clean_main_&_ident.pdf
http://www.petvetbiomed.com/html5/web/10200/13095ImageFile3.pdf
http://www.westchem.ca/products/stainless-steel-pickling-and-passivation/
...............................................
#BEC #becvet #เครื่องมือสัตวแพทย์ #อุปกรณ์สัตวแพทย์
Share this entry