8 เทคนิคการใช้ชุดทดสอบเพื่อให้ผลน่าเชื่อถือ
8 เทคนิคการใช้ชุดทดสอบเพื่อให้ผลน่าเชื่อถือ
1. ใช้ตัวอย่างตามคำแนะนำของผู้ผลิต
เชื้อโรคแต่ละชนิดมีช่องทางการแพร่กระจายต่างกัน ทำให้ชนิดของตัวอย่างที่นำมาตรวจแตกต่างกันไปตามโรค ดังนั้นเพื่อให้ได้ปริมาณเชื้อที่เพียงพอ และผลการตรวจที่แม่นยำ ควรเก็บตัวอย่างจากแหล่งที่ทางผู้ผลิตแนะนำ

2. ตัวอย่างที่ใช้ตรวจไม่หนืด หรือข้นจนเกินไป
Test kit ใช้หลักการ Lateral flow immunochromatography ซึ่งต้องใช้การไหลของตัวอย่างจากช่องหยดไปที่แถบทดสอบ ถ้าตัวอย่างมีความหนืด หรือข้นมากจะส่งผลต่อการไหลของตัวอย่าง ดังนั้นควรผสมตัวอย่างกับตัวทำละลายให้เข้ากันแล้วรอให้ตัวอย่างตกตะกอนก่อนนำเฉพาะส่วนบนมาทำการทดสอบ

3. อย่าลืมซักประวัติการฉีดวัคซีนก่อนการตรวจ
การฉีดวัคซีนชนิดเชื้อเป็น (Modified Live Vaccine) สามารถทำให้เกิดผล False positive ได้

4. ตรวจสอบวันหมดอายุ และสภาพบรรจุภัณฑ์ก่อนการใช้งาน
ไม่ควรนำ Test kit ที่หมดอายุ หรือบรรจุภัณฑ์เสียหายมาใช้งาน เนื่องจาก Test kit มีความไวต่อความชื้น และความร้อน ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของ Test kit

5. หากมีการเก็บรักษา Test kit ไว้ในตู้เย็น ต้องนำมาไว้ที่อุณหภูมิห้องก่อนใช้งาน

6. อ่านผลตามระยะเวลาที่กำหนด การอ่านผลตรวจ
Vet smart antigen test สามารถอ่านผลได้ที่ 5 – 10 นาทีหลังหยดตัวอย่าง หากอ่านผลหลัง 10 นาที อาจทำให้การอ่านผลผิดพลาดได้
**เนื่องจากสามารถพบการขึ้น 2 ขีดหลังจากวางชุดตรวจทิ้งไว้เกินเวลาที่กำหนด**

7. ระบุชื่อ และรหัสประจำตัวสัตว์ป่วย
ในกรณีที่ตรวจสัตว์ป่วยพร้อมกันหลายตัว อย่าลืมระบุชื่อ/รหัสของสัตว์ป่วยที่ Test kit เพื่อป้องกันการอ่านผลสลับตัว

8. ประเมินผล Test kit ร่วมกับอาการ และวิธีการวินิจฉัยอื่นๆ
Test kit เป็นชุดตรวจสำหรับคัดกรองโรค สามารถพบผล False positive และ False negative ได้ ดังนั้นควรประเมินผลร่วมกับการวินิจฉัยอื่นๆ เพื่อให้ผลที่แม่นยำมากขึ้น

บทความโดย สพ.ญ.อภิลักษณ์ มหัธนันท์
...............
#เครื่องมือสัตวแพทย์ #คลินิกสัตวแพทย์ #โรงพยาบาลสัตว์ #อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง #อุปกรณ์สัตวแพทย์ #BEC #becvet #BECpremium #ครบจบที่BEC #Vetsmart #Testkit

