Omega-3 ดีกับสุนัขและแมวอย่างไร

ในปัจจุบัน เราจะเห็นเทรนด์การใช้อาหารเสริม ทั้งในคนและสัตว์เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สารเสริมอาหารตัวหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในวงการสัตว์เลี้ยงได้แก่ omega-3

omega-3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว (Polyunsaturated fatty acid) ซึ่งแบ่งเป็น 3 ชนิดได้แก่ α-linolenic acid (ALA) ที่พบในน้ำมันพืช, eicosapentaenoic acid (EPA) และ docosahexaenoic acid (DHA) ที่พบในสัตว์ทะเล

ประโยชน์ของ omega-3 สำหรับสุนัข

1)ช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกาย จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสุนัขและแมวที่มีปัญหาความเสื่อมของข้อต่อต่าง ๆ (osteoarthritis)

2) มีส่วนช่วยในการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ, ไต, สายตา รวมไปถึงสมอง

3) บำรุงเส้นขนและผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ช่วยอาการคันที่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้

ด้วยประโยชน์ของ omega-3 จึงทำให้มีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดต่าง ๆ มากมาย ซึ่งจะสรุปคร่าว ๆ ตามนี้นะคะ

                                                            

 • น้ำมันปลา (Fish oil) สกัดน้ำมันมาจากส่วนต่างๆของปลา จะอุดมไปด้วย EPA และ DHA แต่ omega-3 ที่ได้ จะละลายได้ดีในไขมัน จึงแนะนำให้กินพร้อมอาหารเพื่อให้สามารถดูดซึมได้ดี

                                                      

• น้ำมันตับปลา (Fish liver oil) สกัดมาจากตับปลา เช่น cod liver oil จะประกอบไปด้วย EPA และ DHA รวมทั้งมีวิตามินAและD ในปริมาณสูง มักนำมาใช้เพื่อหวังผลในการเสริมสร้างกระดูกและบำรุงสายตา จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ เนื่องจากจุดประสงค์ในการใช้จะแตกต่างจากน้ำมันปลา และการรับวิตามินAและD ที่สูงเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

                                                     

• น้ำมันคริลล์ (Krill oil) เป็นน้ำมันสกัดจากกุ้งขนาดเล็ก ซึ่งแหล่งใหญ่จะมาจากมหาสมุทรแอนตาร์กติก ประกอบไปด้วย EPA และ DHA ข้อดีของน้ำมันคริลล์ที่เหนือกว่าน้ำมันปลาคือมีความสามารถในการดูดซึมไปใช้ได้ดีแม้ไม่ได้กินพร้อมอาหาร รวมทั้งยังมี astaxanthin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าวิตามิน E ถึง 500 เท่า รวมทั้งจะมีสารปนเปื้อนที่น้อยกว่า เนื่องจากเป็นสิ่งมีชีวิตลำดับแรกๆในห่วงโซ่อาหาร

                                                   

• น้ำมันสกัดจากหอยแมลงภู่ (Green-Lipped Mussel oil) ประกอบไปด้วย EPA และ DHA และมีข้อดีในเรื่องของ environmental friendly

                                                        

• น้ำมันสกัดจากสาหร่ายทะเล (Algal oil) เป็นแหล่งของ DHA ที่สำคัญสำหรับผู้ที่เป็นมังสวิรัติ

                                                          

• น้ำมันพืช (เช่น flax seeds, chia seeds hemp seeds) จะอุดมไปด้วย ALA

                                    

ข้อระวังในการใช้อาหารเสริม omega-3

 ⁃ ตรวจสอบแหล่งที่มาให้แน่ชัด เนื่องจากอาหารเสริมที่มาจากสัตว์ทะเล จะต้องระวังเรื่องการปนเปื้อนของโลหะหนัก

 ⁃ ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขี้น เช่น ลมหายใจมีกลิ่นคาวปลา, อาเจียน, ท้องเสีย เป็นต้น

 ⁃ ระมัดระวังการใช้ในสัตว์เลี้ยงที่มีการแพ้อาหารทะเล

 ⁃ ระวังการใช้ในสัตว์เลี้ยงที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากมีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

 

บทความโดย

สพ.ญ สุรดา วัชรพงศ์ปรีชา


Share this entry