Poisonous animals in the rainy season
แมลงและสัตว์มีพิษมักจะเข้ามาอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านช่วงมีฝน ไม่ว่าจะเป็นงู แมงป่อง หรือคางคก ซึ่งหากน้องๆไปสัมผัส หรือโดนกัดสามารถเป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ดังนั้นหากน้องๆ ไปสัมผัส หรือโดนกัดควรใช้น้ำสะอาดชะล้างบริเวณที่สัมผัส หรือปากแผล และรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
1. งู
งูพิษไทยที่ควรระวัง : งูเห่า งูจงอาง งูสามเหลี่ยม งูพริก งูชายธง งูคออ่อน งูลายสาบคอแดง งูปล้องหวาย งูทับสมิงคลา งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม
อาการเบื้องต้น
- หน้าบวม
- มีผื่นแดง
- น้ำลายไหล
- หายใจลำบาก
วิธีดูแลเบื้องต้น
1. ล้างปากแผลที่โดนกัด
2. พยายามให้บาดแผลอยู่ต่ำกว่าหัวใจ
3. เจ้าของต้องจดจำลักษณะให้ขึ้นใจ เพื่ออธิบายให้กับสัตวแพทย์เพื่อหาเซรุ่มรักษาได้
**ห้ามนำแผลแช่น้ำอุ่นเพราะจะทำให้พิษกระจายไปทั่วร่างกาย
...............
2. แมงป่อง
อาการเบื้องต้น
- เจ็บปวดมาก
- น้ำลายฟูมปาก(ในบางตัว)
- อาเจียน
- กล้ามเนื้ออ่อนแรง
วิธีดูแลเบื้องต้น
1. ล้างปากแผลที่โดนกัด
2. พาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
...............
3. คางคก
อาการเบื้องต้น
- หน้าบวม
- มีผื่นแดง
- น้ำลายไหล
- หายใจลำบาก
วิธีดูแลเบื้องต้น
1. ใช้น้ำสะอาดล้างช่องปากหรือบริเวณที่น้องสัมผัส (ระวังอย่าให้น้ำไหลเข้าจมูกหรือปาก)
2. พาไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
....................
บทความโดย
สพ.ญ.สรัญญา เกษรบัว
....................
#เครื่องมือสัตวแพทย์ #คลินิกสัตวแพทย์ #โรงพยาบาลสัตว์ #อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง #อุปกรณ์สัตวแพทย์ #BEC #becvet #BECpremium #ครบจบที่BEC #ดูแลสัตว์เลี้ยงในหน้าฝน