How to choose food to keep Pet away from disease
“You are what you eat” เป็นประโยคที่ใช้ได้กับทั้งมนุษย์และสัตว์เลี้ยง โดยอาหารถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ และยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อสุขภาพของน้องๆ อีกด้วย เราจึงอยากชวนคุณพ่อ คุณแม่ หันมาใส่ใจในอาหารของน้องๆ มากขึ้น โดยเราจะนำหลักเล็กๆ ในการเลือกอาหารสำหรับน้องหมาและน้องแมวห่างไกลโรค มาให้คุณพ่อ คุณแม่ได้นำไปใช้กันนะคะ
1. เลือกชนิดอาหารให้เหมาะกับชนิดของน้องๆ เช่น ไม่ควรให้อาหารสำหรับน้องหมากับน้องแมว เนื่องจากปริมาณสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่สัตว์เลี้ยงแต่ละชนิดต้องการนั้นแตกต่างกัน
2. เลือกอาหารให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย เช่น ลูกสัตว์จะมีความต้องการปริมาณโปรตีน และสารอาหารมาก เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต จึงควรให้ปริมาณโปรตีนในลูกสัตว์สูงกว่าวัยอื่นๆ
3. ให้อาหารในปริมาณที่พอเหมาะกับน้องๆ โดยหากใช้อาหารสำเร็จรูป สามารถให้ตามปริมาณที่แนะนำบนบรรจุภัณฑ์อาหารได้ แต่หากเป็นกรณีที่คุณพ่อ คุณแม่ปรุงอาหารเอง ควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อให้น้องๆ ได้รับปริมาณสารอาหารที่เหมาะสม
4. จำนวนมื้ออาหาร โดยช่วงที่น้องๆ อายุน้อยกว่า 6 เดือน ควรแบ่งให้อาหารเป็นวันละ 3 มื้อ แต่หากอายุมากกว่า 6 เดือนแล้ว ให้แบ่งอาหารออกเป็น 2 มื้อต่อวัน
5. น้ำ ควรมีน้ำที่สะอาดไว้ให้น้องได้ดื่มกินอย่างเพียงพอตลอดทั้งวัน
6. ขนม สามารถให้ได้เพื่อเป็นรางวัลหรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณพ่อ คุณแม่กับน้องๆ แต่ไม่ควรให้ในปริมาณเยอะเกินไป เนื่องจากอาจจะทำให้น้องไม่กินอาหารหลัก ส่งผลให้ร่างกายขาดสารอาหาร เกิดโรคอ้วน และโรคอื่นๆ ตามมาได้
เพราะน้องๆ ไม่สามารถเลือกอาหารที่เหมาะสมสำหรับตัวเองได้ เราซึ่งเป็นคุณพ่อ คุณแม่ จึงควรใส่ใจในการเลือกอาหารที่ดีให้กับน้องๆ โดยทางเราหวังว่าหลักเล็กๆ ในการเลือกอาหารสำหรับน้องหมาและน้องแมวข้างต้นจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณพ่อ คุณแม่บ้างนะคะ เพื่อให้น้องๆ มีสุขภาพแข็งแรงพร้อมที่จะมอบความรักและความสุขให้กับเราไปได้ยาวนานค่ะ
ให้ Neprovit เจลเสริมอาหารบำรุงไต เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการดูแลสุขภาพน้องๆ โดยสามารถให้ Neprovit ได้ทั้งกับสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคไต และสัตว์เลี้ยงที่มีสุขภาพดีได้ เนื่องจาก Neprovit ปราศจากโซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุซึ่งส่งผลเสียกับสัตว์โรคไต นอกจากนี้ยังอุดมด้วยโอเมก้า 3 และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยบำรุงไตอีกด้วย
................................